มอลต้า น่าไปเที่ยวนะเธอ (+ทริคในการขอเชงเก้นวีซ่า)


มอลต้าเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ปออยากไปมานานแล้ว จนวันนึงประจวบเหมาะ เจอตั๋วจากอิตาลีไปกลับมอลต้าถูกมากๆเลยรีบสอยมาครอบครอง และแล้วทริปนี้ก็เกิดขึ้น

มอลต้าคือที่ไหนบนโลกนี้นะ?

อยู่ข้างล่างอิตาลีไง คุ้นกันรึยัง :D
  • มอลต้าเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ EU อยู่ข้างใต้อิตาลี เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ระหว่างทวีปยุโรปและแอฟริกา อาจจะไม่ฮิตหรือนิยมมากในหมู่คนไทย(แต่ตอนไปเริ่มเห็นคนจีนเข้าไปเที่ยวกันเยอะแล้ว) แต่ปออยากจะมาแนะนำประเทศที่สวย เที่ยวง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง(เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในทวีปยุโรป)ให้ทุกคนรู้จักที่นี่มากขึ้นผ่านการเดินทางของปอค่ะ           


  • การเตรียมตัว เราสามารถใช้วีซ่าเชงเก้นเข้าประเทศมอลต้าได้ค่ะ ความดีงามของวีซ่าเชงเก้น คือ สามารถใช้เข้าประเทศเหล่านี้ได้ด้วยวีซ่าอันนี้อันเดียวเลย ได้แก่ประเทศ Austria, Greece, Hungary, Belgium, the Czech Republic, Denmark, Estonia, Finland, France, Germany, Iceland, Italy, Latvia, Poland, Portugal, Liechtenstein, Lithuania, Luxembourg, Malta, the Netherlands, Norway, Spain, Sweden, Slovakia, Slovenia, Switzerland
ปอไม่เคยเขียนเรื่องวีซ่าเชงเก้นจริงจัง วันนี้ขอแนะนำ การยื่นวีซ่า(จากประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเก้นมาพอสมควรของปอค่ะ)  

ขอที่สถานทูตไหน?
- ถ้าไปเที่ยวประเทศเดียว ให้ขอกับสถานทูตประเทศที่จะไป
- ถ้าไปหลายประเทศให้พิจารณา ดังนี้
    - จำนวนระยะเวลาที่พำนักในแต่ละประเทศเท่ากัน :ให้ขอจากสถานทูตประเทศแรกที่เราเดินทางไปถึง เช่น ไป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เชค ทุกประเทศพักเป็นระยะเวลา 4 วันเท่ากัน แล้วจะบินไปลงปารีส เราจะต้องขอวีซ่าเชงเก้นจากสถานทูตฝรั่งเศสค่ะ
    - จำนวนระยะเวลาที่พำนักแต่ละประเทศไม่เท่ากัน : ให้ขอจากสถานทูตประเทศที่เราจะไปอยู่นานที่สุดค่ะ เช่น ไป ฝรั่งเศส 5 วัน  เยอรมนี 7 วัน  อิตาลี 3 วัน  เชค 2 วัน กรณีนี้เราต้องขอวีซ่าจากสถานทูตเยอรมันค่ะ ไม่งงเนอะ 

หลักการที่ปอท่องไว้ในใจเวลายื่นวีซ่าเชงเก้นคือ "เอกสารต้องพร้อม วงเงินต้องถึง ถูกต้อง ครบถ้วน” แค่นี้ค่ะหลักง่ายๆ มาดูกันว่าเอกสารหลักๆที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง (ปอพูดถึงกรณีการสมัครวีซ่าเเบบท่องเที่ยวค่ะ ในบางกรณีอาจจะมีเอกสารที่แตกต่างไปจากนี้หรือต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม ลองอ่านคำแนะนำจากเวบไซต์สถานทูตที่เราจะสมัครก่อนทุกครั้งนะคะ) 

  • 1) ใบ application form ที่กรอกข้อมูลครบถ้วนพร้อมเซ็นลายเซ็น 2 ที่ที่หน้าสุดท้าย 
  • 2) รูปถ่าย 2 รูป ขนาดและสีพื้นหลัง สามารถบอกร้านถ่ายรูปได้เลยค่ะ ส่วนใหญ่เค้าจะรู้มาตรฐานอยู่แล้ว ปอชอบไปถ่ายที่สยามตรงใกล้ๆคณะทันตะจุฬา (จำชื่อร้านไม่ได้) ถ่ายดีและมีตกแต่งรูปให้ด้วย งดงามค่ะ 55 
  • 3) พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า (ถ่ายเอกสารตามที่สถานทูตกำหนดนะคะ)
  • 4) เอกสารรับรองความเป็นนักเรียน/ รับรองการทำงาน 
  • 5) สลิปเงินเดือน (กรณีทำงานแล้ว) ปกติจะเป็น 3 เดือนย้อนหลังแต่เชคกับสถานทูตที่เราขออีกครั้งนะคะ 
  • 6) Bank statement ขอได้จากธนาคารที่บัญชีเป็นชื่อเราหรือ กรณีผู้ปกครองสนับสนุนทริป ก็ใช้เอกสารของผู้ปกครองค่ะ
  • 7) หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ/ ที่พัก/ การเดินทางระหว่างประเทศ(กรณีไปหลายประเทศ) อันนี้สามารถจองได้จากเอเจนซี่ กรณีตั๋วเครื่องบิน ถ้าเราไม่มั่นใจว่าจะได้วีซ่าหรือไม่ (แต่บางประเทศก็จะเอาเอกสารที่บอกว่าซื้อตั๋วแล้ว อันนี้ก็ต้องดูว่าตั๋วเราสามารถคืนเงินได้มั้ยกรณีวีซ่าถูกปฏิเสธนะคะ) ส่วนที่พักปอจองผ่านเวบไซต์ต่างๆ หลายเวบไซต์จะมีให้จองแบบที่ไม่ต้องจ่ายเงินแค่เอาบัตรเครดิตเป็นประกันเเล้วมายกเลิกก่อนเวลาที่กำหนดได้ กรณีที่ถูกปฏิเสธวีซ่าจะได้ไม่มีปัญหาเสียเงินฟรี เช่น booking.com ค่ะ
  • 8) ประกันการเดินทางที่ได้รับการรับรองจากสถานทูต (ต้องครอบคลุมวงเงินประกันตามที่สถานทูตกำหนด มีทุนประกันภัยเกิน 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1.5 ล้านบาทไทย) ประกันเป็นอีกหนึ่งเอกสารที่สำคัญมากๆในการขอวีซ่าเชงเก้นนะคะ ถ้าเราไม่มีประกันหรือซื้อจากแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองจากสถานทูตอาจจะถูกปฏิเสธวีซ่าหรือไม่ให้ยื่นเอกสารเลยก็เป็นได้ หลายคนถามหลังไมค์มาค่ะว่าซื้อของอะไรดี จากที่ปอรู้จักขอแนะนำ คือ เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ค่ะ เป็นบริษัทประกันสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลกทั้งเอเชีย และยุโรป เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ลอนดอน มาเลเซีย เป็นต้น โดยเราสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่โดยสถานทูตปฏิเสธเอกสาร อีกอย่างค่ะ ของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ถ้าวีซ่าถูกปฏิเสธเค้าคืนเงิน 100% ค่ะ และบัตรกำนัล Starbucks แถมด้วยค่ะ ซื้อผ่าน website หรือ แอพพลิเคชั่น MSIG Iappได้ สะดวกไม่ต้องเดินทางไปออฟฟิศก็ได้ค่ะ)
    ทั้งนี้ต้องเลือกประกันที่ถูกต้องกับประเภทวีซ่า, ระยะเวลาที่ไปด้วยค่ะ
                หลายคนอาจจะคิดว่าทำประกันไปทำไม? เราคงทราบดีอยู่แล้วว่าประกันการเดินทางจะคุ้มครองความเสี่ยงและอุบัติเหตุในหลายๆกรณีตามเงื่อนไขและรูปแบบประกันที่เราซื้อ กรณีเชงเก้นนี่เพราะเค้าบังคับไปในตัวค่ะ ไม่มีคือยื่นวีซ่าไม่ได้ (เป็นความหวังดีที่ถูกต้องของทางสหภาพยุโรปค่ะ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่ยุโรปนั้น เผลอๆแพงกว่าเงินที่เราใช้ทั้งทริป ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับเรา) แต่จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากนะคะ แม้ว่าเราจะเดินทางไปประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ปอก็แนะนำให้ทำประกัน เพราะเคยเจอกรณีคนที่รู้จักไปเที่ยวตุรกีค่ะ (คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้อง
    ขอวีซ่า) เค้าก็ไปเที่ยวแบบตัวปลิว ไม่ได้คิดถึงเรื่องประกันการเดินทาง แล้วอาจจะเป็นเพราะความโชคร้ายค่ะ เค้าไปขึ้นบอลลูนแล้วทีนี้วันนั้นลมแรง ตอนบอลลูนลงจอดเกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องไปหาหมอที่ตุรกี ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมากๆเพราะเค้ากระดูกหัก จากเหตุการณ์ที่เค้าเล่าให้ฟังเลยทำให้ปอตระหนักถึงการซื้อประกันการเดินทางตลอดมาค่ะ (ปอซื้อเป็นรายปีเลย เพราะเดินทางบ่อย คุ้มกว่ามาซื้อเป็นเที่ยวๆ) ยังไงก็ลองปรึกษากับตัวแทนที่ขายประกันก่อนซื้อได้ค่ะ จะได้ประกันที่คุ้มค่าเหมาะสมกับการเดินทางของเรามากที่สุด

           ปัจจุบันนี้หลายสถานทูตให้เรากรอกใบสมัครออนไลน์ค่ะ ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์และบางแห่งมีให้จองวันเวลาที่นัดยื่นเอกสารด้วยเมื่อเอกสารพร้อม (เชคให้ละเอียดและบางสถานทูตจะมีแผ่นให้คำแนะนำเรื่องการเรียงเอกสารเพื่อความรวดเร็วในการยื่น) หลังจากนั้นก็ไปยื่นที่สถานทูตหรือ VFS ตามเวลาที่จองได้เลยค่ะ หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนจ่ายเงินและรอ(บางคนอาจจะโดนเรียกสัมภาษณ์ แต่ไม่ยากค่ะ ปอเคยโดนสถานทูตเยอรมันกับฟินแลนด์สัมภาษณ์ เค้าก็จะถามว่าไปทำอะไร เดินทางยังไงบ้าง พักที่ไหน ทำนองนี้ค่ะ ไม่ยาก) เท่านี้ก็ได้วีซ่าเชงเก้นมาครอบครองแล้ววว

          ตัวพร้อม ใจพร้อม วีซ่าพร้อมก็ลุยไปมอลต้ากันค่ะ รีวิวนี้อาจจะไม่ได้เป็นแบบละเอียดเพราะปอไปแนวพักผ่อนช่วงคริสมาสต์ปีใหม่ด้วย เลยขอแนะนำที่เที่ยวที่น่าสนใจที่นั่น(แบบย่อๆ)ที่ได้ไปมานะคะ 
(ไฟลท์จากโรมมาที่นี่ถูกมากค่ะ ปอได้ราคาไปกลับ 2,500 บาท) 
เกาะ Gozo ค่ะ

ปอตั้งต้นการเดินทางจากอิตาลีบินแปบเดียวชั่วโมงนิดๆก็มาถึงมอลต้าค่ะ ตม ตรวจว่าเรามีวีซ่าถูกต้องมั้ยตามปกติแล้วก็ผ่านเข้าเมืองมา ปอจอง airport transfer จากในเวบออนไลน์ไว้เพราะได้ราคาไปกลับประมาณ 700 บาท(ค่อนข้างถูก เพราะบินไฟลท์ดึก รถเมล์หมดแล้ว) ที่พักที่เลือกไว้ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงค่ะ แต่ได้โรงแรมราคาถูกมากๆ แถว Sliema ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ เมื่อเทียบกับขนาดห้องแถมรวมอาหารเช้าด้วย คืนละ 2,000 บาท ปอเลยนอนโรงแรมพักร่างช่วงนี้เลย (ปกติจะนอนแต่โฮสเทล) 

คุ้มมากกกก
ตื่นมาเห็นวิวทะเลด้วยค่ะ โชคดีที่โรงแรมให้ห้องที่วิวสวยมากๆกับราคานี้

การเดินทางในมอลต้าสำหรับคนที่มาหลายๆคนเช่ารถขับก็คุ้มค่าค่ะ ไปไหนมาไหนสะดวก แต่หากมาคนเดียว รถเมล์ที่นี่ก็ไปทั่วถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแบบเที่ยวเองได้สบายๆค่ะ แค่รอบรถไปบางที่อาจจะไม่ถี่ มาทุก ชม อะไรแบบนี้ก็เผื่อเวลากันดีๆนะคะ สำหรับตั๋วมีแบบเหมา 7 วัน หรือซื้อเป็นเที่ยวๆบนรถค่ะ ตอนปอไปเที่ยวละ 1.5 ยูโร แล้วรถจะมีตั้งแต่ 5.30 - 23.00 ค่ะ แต่บางคันก็อินดี้มากตอนดึกๆ ปอรอรถกลับ Valetta เป็นชั่วโมงๆเลย ที่ท่าเรือเพราะนายท่าบอกไม่มีคนขับ -_- แต่เดชะบุญสุดท้ายก็กลับที่พักได้ค่ะ เหนื่อยสุดๆ
ตัวอย่างรอบรถ
ท่ารถใหญ่ที่เมืองหลวง Valetta (คล้ายๆ บขส บ้านเราค่ะ)
สถานที่เที่ยวที่แนะนำในเกาะใหญ่ของ Malta 

1) Valetta เมืองหลวงของประเทศนี้นั่นเอง เป็นเมืองหลวงที่เล็ก น่ารัก แล้วก็เดินเพลินมากค่ะ ไปตรงเมืองเก่าจะมีร้านค้ามากมายเรียงรายตามข้างทาง สิ่งที่ชอบคือตึกที่นี่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์และชอบการตากผ้าของคนที่นี่ 555 ไอติมก็อร่อยค่ะ ไม่รู้ว่าได้อิทธิพลมาจากอิตาลีรึป่าว เอาเป็นว่าไปชมภาพเล็กๆน้อยๆกันค่ะ

สะพานที่เชื่อมระหว่างบริเวณท่ารถบัสกับเมืองเก่า
ช่วงคริสต์มาสค่อนข้างคึกครื้นค่ะ อากาศดีคนออกมาเดินเล่นกันเต็มเลย

ไม่พลาดการกระโดด :D
บรรยากาศดีค่ะ ติดทะเล วิวก็สวย
ชอบหน้าต่างตึกที่นี่

จัตุรัสกลางเมือง
2) หมู่บ้านชาวประมง marsaxlokk

ที่นี่อาจจะเป็นเมืองเล็กๆแต่มีความน่ารักและเป็นเอกลักษณ์จากเรือประมงที่เรียงรายกันเต็มผืนทะเล เสียดายที่ปอไปถึงก็พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ภาพเลยไม่ค่อยสวย แต่แนะนำให้ไปค่ะ มีอาหารทะเลราคาไม่แพงขายด้วย นั่งรถจาก บขส valetta ที่เดิมค่ะ (ศูนย์กลางรถเมล์ไปทั่วประเทศ)





    - Gozo island 

     นอกจากเกาะหลักของประเทศแล้วย้งมีเกาะเล็กย่อยอีกสองที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกาะ gozo และเกาะ comino  ปอไปเที่ยวเกาะ Gozo เพราะอยากไปเห็นสถานที่ถ่ายทำ games of thrones ค่ะ สถานที่นี้มีชื่อว่า Azure window การเดินทางจากเกาะใหญ่ต้องนั่งรถมาที่ท่าเรือ Cirkewwa มีเรือออกเรื่อยๆค่ะ ถ้าซื้อตั๋วไปกลับคือค่อยมาจ่ายเงินตอนขากลับ (แปลกดีค่ะ ตอนนั้นก็งงๆ คืออะไรทำไมเราเดินขึ้นเรือไปได้เลย 555) แล้วก็ต่อรถบัสไปลงท่ารถใหญ่แล้วนั่งอีกคัน ไปถึง Azure window เลยไปง่ายมากๆ มาดูภาพกันค่ะ 

ลงจากรถมาเวลาเย็นๆแล้ว
สิ่งที่ดีงามของการมาที่นี่คือ การมาดูพระอาทิตย์ตกดินค่ะ สวยประทับใจมากจริงๆ 
เดินสำรวจไปเรื่อยๆ
โอะโอ ในสุดสุดก็เจอแล้วววว
เป็นหินลักษณะคล้ายสามพันโบกอยู่นะคะ

 อ่อ แต่ว่าคนที่นี่บอกว่าที่นี่กร่อนเรื่อยๆทุกปี เค้าคาดว่าอีกไม่นาน-น่าจะสักสิบปี-อาจจะถล่มลงมาแล้ว ต้องรีบไปเที่ยวนะค้าา) มาที่นี่สามารถทำทริปครึ่งวันได้เพราะปอมาถึงช่วงเย็นๆก็ยังเที่ยวทันกลับถึงเกาะใหญ่สองทุ่มแต่ดราม่ารถเมล์ไม่มีคนขับ รอนานไปอีก ได้ขึ้นรถตอนสามทุ่ม 555 เอาน่ะ อย่างน้อยก็ได้ถึงที่พัก นอนสลบเลยค่ะ 

จริงๆยังมีที่เที่ยวอีกเยอะแต่ปอไม่ได้ไปเองเนื่องจากความเฉื่อยของการมาพักร่าง และคิดว่าจะกลับมาอีกค่ะ มอลต้าเป็นประเทศที่ค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก, ผู้คนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี, มีระบบคมนาคมที่ค่อนข้างดี เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวไม่ยาก และปอก็เห็นคนเอเชียเริ่มเข้ามาเที่ยวที่นี่เยอะขึ้น บรรยากาศชิวๆ(คนยุโรป โดยเฉพาะสูงวัย) ชอบมาตากอากาศที่นี่ เพราะอากาศค่อนข้างดีตลอดปี ใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองยอดฮิตในยุโรปก็ลองเปิดใจให้กับประเทศเล็กๆประเทศนี้ดูนะคะ มีทั้งธรรมชาติสวยๆ เมืองน่ารักๆให้เที่ยวเยอะแยะเลย ไม่ต้องสูงวัยก็ไปเที่ยวได้ ทำวีซ่า จองตั๋ว แล้วมาเที่ยวมอลต้ากันนะคะ :) 

credit ภาพ : 
http://www.mytripolog.com/2012/07/vacation-in-malta-a-universal-island/where-is-malta-on-world-map/
http://www.applyschengenvisa.com/what-is-schengen-visa/

จองตั๋วเครื่องบิน กับ Jetradar