Sea you in Phuket เที่ยวภูเก็ตคนเดียว ไม่เปลี่ยวแถมสนุกมาก (ตอน 1)





         รีวิวครั้งนี้มาเที่ยวในประเทศไทยกันบ้างค่ะ เป็นจังหวัดที่หลายๆคนอาจจะรู้จักดีกว่าปออีกด้วยซ้ำ เพราะทุกครั้งที่คิดจะไปภูเก็ต มักจะมีจุดหมายปลายทางอื่นมาดึงดูดใจ สกัดดาวรุ่งไปทุกครั้ง (ปกติจะชอบไปที่ที่คนอื่นไม่ค่อยไปเที่ยวกันค่ะ 555) ครั้งนี้จะไม่พลาดอีกแล้ว เลยขอจัดเต็มกับทริปนี้ ความคาดหวังคือไปเที่ยวเกาะสวยๆ สงบๆ และไปดูเครื่องบินตอน landing ที่หาดไม้ขาว อันนี้เตรียมมาถ่ายรูปเต็มที่ ครั้งนี้ปอพก Nikon D5500 ที่ใช้งานง่าย สำหรับสาวๆที่ไม่คุ้นชินกับการปรับใช้กล้อง DSLR ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน ทัชสกรีนได้ พร้อมกับเลนส์ 2 ตัว 1) NIKKOR 18-140 mm และ 2) NIKKOR 10-24 mm กล้องพร้อม คนพร้อม ขอเที่ยวภูเก็ตแบบสุดฟินเท่าที่จะทำได้ใน 4 วัน จะสนุก จะสวย จะเกรียมขนาดไหนไปดูกัน :D

แพลนทริป 

 21/02/16 บินไปภูเก็ต พักที่ The Vijitt resort
 22/02/16 เที่ยวเกาะรอก, เกาะห้า
 23/02/16 เที่ยวเกาะไม้ท่อน จุดชมวิวกะรน, แหลมพรหมเทพ, หาดราไวย์
 24/02/16 เที่ยวรอบเกาะภูเก็ต (วัดพระใหญ่, วัดฉลอม, สะพานสารสิน, หาดไม้ขาว) และเดินทางกลับ กทม


ครั้งนี้รีบหาตั๋วแบบค่อนข้างกระชั้นชิด เลยได้ตั๋วที่ถูกที่สุดขาไปจาก Air asia ส่วนขากลับเป็น Thai lion air เวลาบินเป็นไฟลท์บ่ายเพราะกะเวลาให้ไปถึงตอนเชคอินที่โรงแรมพอดีจะได้ไม่ต้องรอตอนไปถึงค่ะ เผลอแวบเดียวก็มาถึงภูเก็ตแล้ว 


รอรับกระเป๋า

อากาศค่อนข้างร้อนตอนไปถึงก็เดินออกจากสนามบินไปเจอรถที่จองไว้มารับไปที่โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ที่ราไวย์ (แอบคิดในใจว่าภูเก็ตน่าจะมีการขนส่งสาธารณะที่สะดวกไปได้หลายๆจุดมากกว่านี้ เท่าที่หามาคือ มีรถ airport bus ไปลงในเมือง แล้วจากในเมืองหารถต่อไปราไวย์ก็ลำบาก เลยใช้บริการแทกซี่นี่ล่ะ แต่ราคาแทกซี่ที่ภูเก็ตก็โหดอย่าบอกใครเลยค่ะ จากสนามบินมาราไวย์ราคากลางจะอยู่ที่ 700 บาท) นั่งรถราวๆ ชั่วโมงกว่าฝ่าฟันรถติดตรงที่สร้างอุโมงค์ก็มาถึงโรงแรมแล้ว เย้ โรงแรมที่ปอพักทริปนี้ คือ The Vijitt resort ค่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากรถก็มีคนมาต้อนรับอย่างอบอุ่นมีพวงมาลัยให้ด้วย  จากนั้นก็นั่งรถกอล์ฟไปยังห้องพัก


การเดินทางภายในรีสอร์ท สามารถเรียกใช้รถได้ตลอดเวลาเลยค่ะ

พอถึงห้องนอน แล้วก็รู้สึกว่า “นี่ล่ะ การมาพักกายพักใจของจริง” 
เตียงนุ่มมากกก ถ้านุ่มไม่พอสามารถบอกทางโรงแรมให้มาเปลี่ยนที่นอนได้ค่ะ
มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ภายใน Villa
ที่รีสอร์ท บรรยากาศร่มรื่น มีความเป็นธรรมชาติ และส่วนตัวมากๆค่ะ วันนี้มาถึงก็ค่อนข้างเย็นเเล้ว เลยไปสำรวจบริเวณโรงแรม ทานอาหารเย็นแล้วก็พักผ่อนค่ะ

อาหารค่ำมื้อแรกที่ห้องอาหาร Souvery ของ The Vijitt resort




22/02/16


ตื่นเช้าด้วยความงัวเงีย เมื่อเจอเตียงดูดวิญญาณ 
ไม่อยากตื่นเลยให้ตายสิ
วันนี้อย่างที่บอกไว้ว่าจะไปทัวร์เกาะรอกและเกาะห้าของ Love Andaman ซึ่งทางบริษัทก็โทรมาสอบถามและคอนเฟิร์มเวลานัดกับเราว่าจะมารับที่โรงแรมเวลา 7.45 น. รถตู้มารับตรงเวลามากๆค่ะ ก็นั่งสักพักนึงไปท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต พอถึงก็ไปลงทะเบียน มีอาหารว่างสำหรับมื้อเช้าให้ทาน สำหรับคนที่ทานมาจากโรงแรมไม่ทัน ที่สำคัญมียาแก้เมาเรือไว้ให้ด้วยค่ะ เนื่องจากวันนี้พยากรณ์บอกว่าคลื่นแรง เลยไม่อยากกินอะไรมากเช้านี้ กลัวออกมาระหว่างทางค่ะ หลังจากนั้นไกด์ก็จะมาแนะนำตัวและอธิบายตารางกิจกรรมวันนี้
ไกด์แบงค์รับหน้าที่ผู้นำทัวร์วันนี้ค่ะ
ทุกคนจะได้รับสายรัดข้อมือ

รอสักพักเรือก็มาถึงท่าแล้วค่ะ เป็นเรือสปีดโบ้ท วันนี้คนนั่งไปด้วยกันในเรือ 20 กว่าคน



วันนี้คนไทยค่อนข้างเยอะค่ะเพราะเป็นวันหยุดยาว นั่งเรือกันยาวๆไปกว่าจะถึงเกาะรอกฝ่าคลื่นหลายระลอกค่ะ ความเมาคลื่นวันนี้เทียบได้กับการไปเล่นเครื่องเล่นในดรีมเวิร์ด ฮ่าๆ ราวๆ 2 ชม ก็ถึงเกาะรอกนอกแล้ว (เดชะบุญที่ไม่อ้วก 55) จริงๆแล้วเกาะรอกอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่แล้วค่ะ ขึ้นอยู่กับอุทยานแห่งชาติเกาะลันตา พอมาถึงก็ปลื้มปริ่มความความใสของน้ำ คุ้มค่าที่นั่งเรือมาละค่า สักพักก็เตรียมตัวดำน้ำตื้นโดยวันนี้จะมีการดำน้ำ 2 จุด คือที่เกาะรอก และเกาะห้า ว่าแล้วก็ขอพาไปชมบรรยากาศเลยดีกว่าค่ะ วันนี้แชะภาพไปมากมาย เมมโมรี่หมดไปเกือบครึ่งที่เตรียมมาแล้วค่ะ 55 



เตรียมพร้อมดำน้ำตื้นกัน

จุดดำน้ำที่แรกมีปะการังและปลาพอประมาณค่ะ น้ำสีสวยมากกกก

ส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นนีโม ดำน้ำดูได้เพลินๆ 40 นาที ก็ขึ้นเกาะไปทานอาหารกลางวัน อาหารอร่อย เติมได้ตามชอบเลยค่ะ



หลังจากนั้นก็พักผ่อนชิวๆบนเกาะ ซึ่งตอนเวลาที่ไปถึงมีเรือของทัวร์ชาวต่างชาติมาลงพอสมควรแต่ก็ไม่ได้มากมายจนแออัดค่ะ มีมุมว่างๆให้ได้ถ่ายรูปมากมาย จริงๆแล้วบนเกาะมีที่พักด้วยค่ะ จากการพูดคุยกับพี่เจ้าหน้าที่อุทยานที่เค้าสงสารเห็นเรามาคนเดียว ถ่ายรูปอย่างเมามันเลยเข้ามาคุยด้วย พี่เค้าบอกว่าเต๊นท์บนเกาะสามารถพักได้หรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็ได้เช่นกัน เสียค่าบำรุงไม่ถึง 100 บาท

เต๊นท์ที่ทางอุทยานจัดไว้ให้เช่า

บรรยากาศชายหาดรอบๆเกาะ
มีบ้านพักคล้ายๆ บังกะโลเช่นกัน แต่ต้องจองมาก่อน อันนี้ปอเล็งไว้ว่ารอบหน้าจะมาพักแบบนี้บ้าง น่าสนุกดี จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปอีกฝั่งนึง ซึ่งเป็นเกาะรอกใน บรรยากาศฝั่งนี้สวยมากกก น้ำสีสวยมากค่ะ สวยจนคิดว่าอยากจะมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่!! (ในส่วนของเจ้าบ่าวนั้น ขอมโนว่าเป็นฝรั่งเเซ่บแถวๆนั้น 55) ไกด์ของ love นี่โปรเรื่องการถ่ายภาพและโพสท่ามากค่ะ ส่ง D5500 ไปให้น้อง น้องใช้งานอย่างคล่องแคล่วประดุจเป็นกล้องของน้องเอง ฮ่าๆ ขอบคุณรูปสวยๆจากน้องซาซ่า


ปูวิ่งมาบายบายก่อนจะออกจากเกาะค่ะ


หลังจากนั้นก็นั่งเรือไปที่เกาะห้าเพื่อไปดำน้ำต่อ



ที่นี่ปะการังและปลาเยอะมากๆ เห็นฝูงปลาว่ายสวนกันไปมาเยอะแยะเลยค่ะ มีจุดนึงที่เป็น Scuba diving point ตอนที่ไปคลื่นเเรง ดีที่ทีมงานที่มากับเรือคนนึงว่ายมาเจอปอร่อแร่อยู่เลยช่วยลากไปวนดูปะการังได้ครบรอบ 55 ถ้าว่ายเองอาจจะลอยไปไหนแล้วไม่รู้

หลังจากดำน้ำ 40 นาที ก็ขึ้นเรือเตรียมกลับฝั่ง ขากลับนี่ดีกว่าขาไปมากกกก คลื่นไม่มี เผลอหลับไป เม้ามอยกับไกด์แพลบๆ ถึงฝั่งละค่ะ บอกลาท่าเรือ พรุ่งนี้กลับมาใหม่ 55

ความประทับใจของวันนี้คงเป็นมิตรภาพดีๆที่เริ่มก่อตัวขึ้นกับน้องที่มาฝึกงานกับ Love Andaman "น้องซาซ่า" น้องบอกว่าจริงๆชื่อสา แต่คนจำไม่ค่อยได้ ฮ่าๆ วันนี้ปอเป็นคนเดียวในเรือที่มาเที่ยวคนเดียว แต่ก็ไม่รู้สึกเหงาเลย เพราะน้องมาคุยด้วยตลอด แนะนำที่เที่ยว ที่กินในภูเก็ต สร้างสีสันและรอยยิ้มตลอดทั้งวัน

น้องซาซ่า


หลังจากนั้นก็กลับที่พัก สำหรับวันนี้ก็ไปชิมอาหารจากห้องอาหาร Baan Vijitt ค่ะ เป็นอาหารไทยที่อร่อย รสชาติไทยๆ ฝรั่งที่มาพักที่โรงแรมมาทานที่นี่กันค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้นก็เดินเล่นรอบๆ ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินก่อนกลับไปพักที่เตียงดูดวิญญาณเติมพลังสำหรับทริปเกาะไม้ท่อนวันพรุ่งนี้

จุดชมพระอาทิตย์ตกดินของทางโรงแรมก็สวยไม้แพ้ที่ไหนในภูเก็ตเลย
23/02/16 

เนื่องจากวันนี้เป็นทริปไปเกาะไม้ท่อนซึ่งนั่งเรือจากท่าเรือน้ำลึกแค่ 15 นาที โปรแกรมของวันนี้จึงเริ่มสายกว่าเมื่อวาน ตอนเช้ามีรถมารับที่โรงแรมไปที่ท่าเรือเหมือนเดิมเลยค่ะ  เนื่องจากโรงแรมที่ปออยู่ค่อนข้างอยู่นอกเส้นทางจากผู้ร่วมทริปคนอื่น วันนี้เลยมีรถเก๋งมารับ มีปอและคู่สามีภรรยาชาวฝรั่งเศสอีกคู่นึง เราทำความรู้จักและพูดคุยกันไปไงมาไงมาภูเก็ต  เค้าสองคนเกษียณแล้วค่ะ ตอนนี้ออกเดินทางเที่ยวอย่างเดียว รอบนี้มาภูเก็ตเดือนนึง เช่ารถขับกันเองไปทั่วเกาะแล้ว วันนี้เลยตัดสินใจมาเที่ยวเกาะไม้ท่อน เพราะไม่ไกลจากฝั่งมาก และเค้าบอกว่าดูไม่ touristic เกินไป คุณลุงเป็นวิศวกรด้านพลังงาน เดินทางทำงานมาทั่วโลก เคยไปอยู่อินโดนีเซียมาห้าปี จนพูดภาษาอินโดได้ ลุงชอบประเทศไทยมากๆ มาภูเก็ต 5 รอบแล้ว ใจจริงคุณลุงอยากมาอยู่ไทยปีละ 6 เดือนเลย แต่คุณป้าคิดถึงบ้าน เลยมาปีละเดือน เค้าบอกว่าวันนี้เดี๋ยวไปดำน้ำด้วยกัน คุณลุงเตรียมกล้องวีดีโอมาอย่างดี

คุณลุงคุณป้าคู่สามีภรรยาชาวฝรั่งเศส
กิจกรรมก่อนออกเรือเหมือนเมื่อวาน มีอาหารเช้า และการบรีฟโปรแกรมวันนี้โดยไกด์แบงค์คนเดิม มีน้องซาซ่าไปด้วย เรียกได้ว่าแทบจะยกชุดเดิมจากเมื่อวานไปเลยทีเดียว

ก่อนออกเรือก็ได้ทำความรู้จักคุณป้าชาวเดนมาร์คอีกหนึ่งคนเพราะเค้ามาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน (ทริปวันนี้ชาวต่างชาติเกินครึ่งค่ะ) คุณป้าชื่อ เจน มาภูเก็ต 7 ครั้งแล้ว เค้าชอบภูเก็ตเพราะมีทุกอย่าง มีทะเล มี ภูเขา มีกิจกรรมนู่นนี่นั่น  เราได้คุยกันยาวเพราะคุณป้าเคยไปอาศัยอยู่ที่บราซิล 10 กว่าปี (ปออยากไปอเมริกาใต้มากกก) แต่เค้าบอกว่า ตอนนี้ไม่ได้น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อนเเล้ว สิ่งก่อสร้างเต็มไปหมด แถมโจรขโมยก็เยอะขึ้น คุยกันไปมาก็พูดถึงเรื่องรัฐสวัสดิการที่น่าอิจฉาของแถบประเทศในสแกนดิเนเวีย หลายคนสามารถ early retire มาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่ค่าครองชีพไม่สูงได้สบายๆเลย คุณป้าบอกว่า อยู่เมืองไทยสบายใจดี คนเป็นมิตร อาหารอร่อย อากาศดี ใช้ชีวิตง่ายๆที่นี่ คุณป้าบอกวันนี้สองสาวเราเที่ยวด้วยกันนะ 55 โอเคค่ะ ลืมวัยกันเลยทีเดียว

คุณป้าเจน จากเดนมาร์ค
พูดคุยกับคุณป้าเพลินๆ พร้อมกับลุ้นว่าคลื่นจะเเรงมั้ย ซึ่งก็เเรงจริงๆค่ะ น้ำกระเซ็นเข้ามาให้ได้เปียกก่อนจะดำน้ำอีก ฮ่าๆ 15 นาทีผ่านไปก็ถึงแล้ว เกาะไม้ท่อน เกาะที่ได้รับสมยานามว่า มัลดีลฟ์เมืองไทย

ก้าวแรกที่ลงเรือมาก็ได้แต่กรี๊ดในใจว่า น้ำใสอะไรเบอร์นั้น ใสจนเห็นปลาในน้ำเลย

น้ำใสจนฟินน
สำหรับคนที่จะไปดำน้ำก็ไปต่อกับเรือเลย โดยจุดดำน้ำนี้ไปอีกฝั่งนึงของเกาะ แต่น้ำค่อนข้างลกแล้วก็ไม่ค่อยมีปลาค่ะ มีปะการังสวยๆอยู่บ้าง เจอฝูงปลาโทงว่ายตัดหน้าไปหลายฝูงอยู่ คุณลุงฝรั่งเศสก็บอกว่าแอบเสียดายไม่ค่อยมีปลา ไกด์บอกว่ามีอีกจุดจะเห็นอะไรเยอะกว่านี้ ตอนกลางวันไปดำน้ำได้อีก เลยอดใจรอจุดที่สองที่ตื่นเต้นกว่าค่ะ หลังจากนั้นเรือก็กลับมาเทียบท่า แล้วก็พักผ่อนตามอัทธยาศัยค่ะ ปอเดินเล่นไปรอบๆ เก็บภาพมาฝากกัน 

อยากเจอความสุขให้เลี้ยวขวา 20 เมตรถึง


สายลม หาดทราย ทะเลใสๆ
หลังจากดำน้ำเสร็จก็เริ่มหิว วันนี้อาหารบุฟเฟต์เหมือนเคยค่ะ แต่เมนูจะจัดเต็มกว่าเดิม มีทะเลปิ้งย่าง น้ำปั่น  เครื่องดื่ม ของว่ามากมาย อิ่มมากจริงๆมื้อนี้
ทะเลปิ้งย่าง น้ำจิ้มก็แซ่บมาก

ข้างว่างและไลน์อาหารและเครื่องดื่มค่ะ
วันนี้จะออกแนวพักผ่อนสบายๆ อยู่ที่เกาะที่เดียว เลยนั่งผ่อนคลาย เม้ามอยกับคุณป้าเจนได้นานค่ะ ช่วงบ่ายกิจกรรมที่น่าสนใจคือ ขึ้นไปจุดชมวิว และดำน้ำตื้นจุดที่สอง ปอร่วมทั้องสองกิจกรรมเลยค่ะ ใครอยากพักผ่อนตามอัทธยาศัย ไปว่ายน้ำ อาบเเดด อะไรก็ตามสบายค่ะ อยู่ได้ถึงบ่ายสามโมงครึ่ง 
เดินย่อย ปีนขึ้นไปจุดชมวิว ระยะทางราวๆ 400 เมตรค่ะ
ถึงแล้วว จากจุดชมวิวนี้ สามารถมองเห็นเกาะภูเก็ต เกาะ พีพี เกาะดอกไม้ และเกาะอื่นๆค่ะ

เรียกเหงื่อไปพอประมาณก็ลงมาเตรียมตัวไปดำน้ำต่อค่ะ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลามากค่ะ


ที่สำคัญมีเจ้าตัวนี้ว่ายตามปอมา น่ากลัวมาก 555 คุณพี่แมงกะพรุนไฟ



ไกด์เล่าให้ฟังว่า มีคนจีนมาเที่ยว ดำน้ำเจอแมงกะพรุนไฟ ไกด์ห้ามแล้วว่าอย่าไปจับ หันมาอีกที คุณพี่ช้อนแมงกะพรุนขึ้นมาทั้งตัว มาถ่ายรูป ผลปรากฏแดงลามไปทั้งเเขนเลยค่ะ อาเมน ใครเจอเจ้าหน้าตาแบบนี้ก็ออกห่างๆนะคะ

ดำน้ำเพลินมากเพลอแวบเดียวบ่ายสาม ก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวกลับฝั่งค่ะ ประทับใจทัวร์กับ Love Andaman เพราะบริการดีมาก กินดี เที่ยวดี ไกด์เป็นกันเอง และเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ค่ะ ยังเหลืออีกหลายเกาะที่ไม่ได้ไป ถ้ามาภูเก็ตอีกจะใช้บริการ Love Andaman แน่นอน

แต่ แต่ วันนี้ยังไม่จบ ไปจุดชมวิว กะรนต่อกันเลย เพราะทัวร์วันนี้จบเร็ว ราวๆ สี่โมงเย็นเท่านั้น


แชะภาพก่อนรีบไปแหลมพรหมเทพ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน


มาชมวิวตรงกังหันกันก่อน 


ก่อนจะขับไปต่อ ที่บริเวณหัวแหลม

พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ววว

กว่าจะเดินลงมาถึงหัวแหลม สลายไขมันไปได้เยอะเลยค่ะ ทางเดินไม่ง่ายเท่าไร แล้วก็ระะทางเกือบๆกิโลเมตร แต่ภาพที่ได้คุ้มค่ากับการเดินลงมามากค่ะ ปิดท้ายกันฟินๆที่นี่ ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป






ติดตามชมวันสุดท้ายในภูเก็ตและบรรยากาศในโรงแรมเพิ่มเติมตอนหน้านะค้า 


จองตั๋วเครื่องบิน กับ Jetradar