แชร์ประสบการณ์โดนสัมภาษณ์กับ ตม อเมริกาแบบโหดๆ (April 2019)


สวัสดีค่า เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาปอได้มีโอกาสไปเที่ยวอเมริกา (ครั้งล่าสุดที่ไปมาคือประมาณ 4 ปีที่แล้ว) แล้วก็ได้พบกับประสบการณ์ interview สุดโหดกับ ตม. (อีกแล้ว) การเป็นผู้หญิงไทยเที่ยวคนเดียวทำใจกับการเจอเรื่องแบบนี้หน่อยนะคะ

อยากบอกว่าทริปนี้ปอไปอเมริกาเพราะได้โปรตั๋วหลุดมาเลยไม่ได้ตั้งใจจะเที่ยวที่นี่อยู่แล้ว แค่พักคืนนึงแล้วต่อเครื่องไปคิวบา ก่อนหน้านี้เคยมาอเมริกา 3 รอบ ไม่ได้ทำผิดกฎหรือมีเรื่องอะไรกับที่นี่ หรือประวัติไม่ดีอะไรมาก่อน (วีซ่าท่องเที่ยว 10 ปี หมดปี 2023)



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบิน SFO

พอลงเครื่องมา เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเอาวีซ่าไปสแกนเครื่อง กรอกข้อมูล สแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูปและปรินท์ใบออกมาเพื่อไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตม ตอนนั้นเริ่มตะหงิดใจละว่าทำไมใบของเรามีเครื่องหมายกากบาทสีดำทับข้อมูลส่วนตัวของเรา (ชำเลืองไปดูของคนอื่นไม่มีกากบาท) พอเดินไปถึง ตม เราเปิดพาสปอร์ตเราดูแล้วบอกว่า ตามผมมา แล้วพาเราเข้าไปห้องของเจ้าหน้าที่ (คิดว่าเป็นห้องที่คนโดนกักตัวหรืือมีปัญหาจะถูกส่งมาที่นี่) พอเราเข้าไปเค้าก็ให้เรานั่งรอ (นานพอสมควรประมาณ ชม นึง) มีเจ้าหน้าประมาณ 3-4 คนอยู่ในห้อง และมีคนถุกพาเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 คนตลอดเวลา 1 ชม นั้น ณ ตอนนั้นยังไม่ได้มีใครบอกอะไรเราเลยว่าทำไมต้องมาที่ีนี่ แล้วต้องเจอใคร ยังไง เค้าห้ามใช้โทรศัพท์ด้วย เราก็ได้แค่นั่งมอง นั่งรอ ไม่อยากโวยวายเพราะกลัวว่าจะมีปัญหา จนสุดท้าย มีเจ้าหน้าที่มาพาเราเข้าไปห้อง interview เป็นผู้ชายวัยกลางคนลุคเอเชียๆ สอบถามละเอียดมากๆว่า มาที่นี่มาทำอะไร อยู่กี่วัน ขอดูไฟลท์ไปกลับ ปอก็ตอบเค้าไปว่ามาพัก ซานฟราน คืนนึงแล้วพรุ่งนี้จะบินไปคิวบา เค้าก็ถามแพลนละเอียดอีกว่าไปคิวบาไปทำอะไร ไปกับใคร ไปเจอใครมั้ย ไปกี่วัน บลาๆ เราก้เล่าไป แล้วก็ถามว่าคุณเอาเงินสดเข้ามาเยอะมั้ย ผมขอดูได้มั้ยว่าเกิน 10,000$ มั้ย? ตอนนั้นแอบอายเบาๆเพราะพกไปแค่ 300$ (ตั้งใจจะใช้บัตรเครดิตเป็นส่วนใหญ่) 555 เปิดให้เค้าดูแล้วเค้าก็ยิ้มๆ แล้วทีนี้คิดว่าเอ้อ โดนสัมภาษณ์เรื่องแพลนการเดินทางแล้วจะจบ สรุปว่าไม่ เค้าเริ่มถามประวัติส่วนตัว พ่อแม่พี่น้องเป็นใครทำงานอะไรอยู่ที่ไหน ตอนนี้ทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไร ลักษณะงานคืออะไร คุณมีนามบัตรมั้ย (เราก็รีบแจกไปเลย) ถ้าเค้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ตม นี่นึกว่ามาสมัครงาน 55

เคยมาอเมริกากี่ครั้งมาทำไม บลาๆ ละเอียดมากๆๆ คิดว่าจะจบแล้วก็ยังค่ะ เค้าเริ่มเปิดพาสปอร์ตเล่มเก่าตั้งแต่หน้าแรก (วีซ่าอเมริกาปออยู่พาสปอร์ตเล่มเก่า) ถามไล่ทุกทริปที่มีตราประทับว่าไปที่ไหนมา ไปทำอะไรมาบ้าง ทีละหน้าจนจบเล่ม (ซึ่งเล่มเก่าปอเดินทางค่อนข้างเยอะเลยต้องคุยกับเค้านานมาก) เค้าจดทุกๆอย่างที่ถามเราไว้ในระบบ แล้วก็เปิดพาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน ทำเหมือนกัน คือบางที่เอาตรงๆไปมานานแล้วก็ลืมนะว่าไปอะไรยังไงมาบ้าง ตอบเค้าไม่ได้เป๊ะๆ ที่โดนถามหนักๆ คือ เค้าเห็นปอมีวีซ่าอิหร่าน อียิปต์ จอร์แดน และประเทศแถบตะวันออกกลางต่างๆ มีตราประทับตุรกี ถามละเอียดมากๆ ว่าไปไหน ทำอะไรมาบ้าง สุดท้ายเค้าถามกลับว่าไปซีเรียมามั้ย ได้แต่ตอบกลับไปว่ายังค่ะ ยังไม่อยากตายไว

ถึงตอนนี้คือเหนื่อยมากๆ สัมภาษณ์อยู่กับเค้าประมาณ 2 ชมได้แล้ว เราถามเค้าว่าทำไมต้องโดนสัมภาษณ์เยอะขนาดนี้ เค้าตอบกลับมาว่า พาสปอร์ตเรามีตราประทับจากประเทศแปลกๆและประเทศที่ไม่ถูกกับอเมริกาเยอะเกินไป (-*-) แล้วเค้าก็ให้เราประทับลายนิ้วมือทุกนิ้วไว้เป็น record เราถามเค้าว่าถ้ามาอีกจะโดนถามแบบนี้อีกมั้ย เค้าบอกว่าไม่สามารถการันตีได้ (เห้อ) but I will make a good note (ขอบคุณค่ะในใจ) สุดท้ายมีชวนเม้ามอยนิดหน่อยด้วยว่าไอเพิ่งไปไทยแลนด์มาชอบมาก (แหม่ วางมาดมาตั้งนาน)

สรุปกว่าจะออกมาได้เกือบ 4 ชม สายการบินก็เก็บกระเป๋าเราไปอีก เพราะคิดว่าไม่มีคนมาเอา ต้องเสียเวลาไปติดต่ออีกเกือบ ชม กว่าจะได้กระเป๋า

ไม่รู้ว่าจะคอมเมนท์ประสบการณ์ครั้งนี้ยังไงดี แต่ถ้ามาอเมริกาครั้งหน้าจะเตรียมตัวตอบคำถามมาเยอะๆ
เค้าไม่ได้ treat เราไม่ดีอะไรนะคะ พูดกับเราแบบไม่ได้ใช้เสียงก้าวร้าว แต่ก็ไม่ได้สุภาพ (นึกออกป่าว มีวางมาดนิดนึง) ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กับ ตม อเมริกาแล้วกันค่า


จองตั๋วเครื่องบิน กับ Jetradar